คอหวยซึม เลขเด็ด ไม่มาโดนกินเรียบ พิษโรงเรียนเปิดเทอม แรงซื้อหดยอดขายตก สลากขู่อีกห้ามรวมชุด |
คอหวยซึม หลัง เลขเด็ด ไม่มาตามนัด ด้าน ผอ.กองสลาก ยอมรับการซื้อขายหวยเงียบเหงา เหตุเปิดเทอมประชาชนต้องใช้เงินซื้ออุปกรณ์การเรียนให้ลูกหลาน ปลื้มคุมหวยได้ 80 บาท คาดยี่ปั๊วซาปั๊วเกร็งกำไรลดลงหลังสลากเหลือคาแผง แถมเจอพิษฝนเล่นงาน เล็งชงบอร์ดเพิ่มบทลงโทษการรวมชุดสลากมาโขกขายแพง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำงวดวันที่ 16 พ.ค.59 ยังคงเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีประชาชนเข้ามาชมการออกรางวัลจำนวนมาก เพื่อลุ้นผลการออกรางวัล แต่ยังพบว่ามีสลากหลายแผงยังเหลืออยู่จำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงเปิดเทอม บรรดาผู้ปกครองต้องใช้เงินไปกับค่าใช้จ่ายในการซื้อสิ่งของให้กับลูกหลานเรื่องการเรียนและเครื่องแต่งตัว ส่งผลให้การขายสลากปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาขายส่งปรับลงอยู่ที่คู่ละ 73-74 บาท โดยราคาขายปลีกก่อนออกรางวัลขายอยู่ที่คู่ละ 85-90 บาท
สำหรับการออกรางวัลสลากฯ ประจำงวดวันที่ 16 พ.ค.นี้ โดยรางวัล เลขเด็ด หน้า 3 ตัว ได้แก่ หมายเลข 975, 382 รางวัลเลขท้าย 3 ตัว ได้แก่หมาย เลขเด็ด 268, 087 เงินรางวัลละ 2,000 บาท รางวัล เลขเด็ด ท้าย 2 ตัว ได้แก่หมายเลข 98 เงินรางวัลละ 1,000 บาท และรางวัลที่ 1 ได้แก่หมายเลข 141737 เงินรางวัลละ 3 ล้านบาท โดยภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมาย เลขเด็ด ของรางวัลที่ 1 ออกมาแล้ว ส่งผลให้เหล่าบรรดาเซียนหวยที่เข้ามาเฝ้าชมการออกรางวัลต่างคอตกไปตามๆ กัน เพราะไม่ตรงกับ เลขเด็ด เลขดังที่ได้ซื้อตามและเก็งกันไว้ล่วงหน้า
พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า บรรยากาศการซื้อขายในงวดที่ผ่านมา พบว่าประชาชนเลือกซื้อสลากลดลง เนื่องจากพบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เพราะต้องนำเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับลูกหลาน ส่งผลให้บางแผงมีสลากเหลืออยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสลากแบบรวมชุด ถือเป็นเรื่องปกติของช่วงเวลานี้ในเดือน พ.ค.แบบนี้ ที่เป็นช่วงเปิดเรียนใหม่ๆ นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจุบันมีการรวมชุดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาสลากปรับราคาขึ้นตาม โดยการประชุมคณะกรรมการสลากฯ ในครั้งหน้า สำนักงานสลากฯ จะเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาถึงสถานการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นจะมีมาตรการเข้มงวดห้ามขายสลากรวมชุดโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษทันที
พล.ต.ฉลองรัฐ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การพิมพ์สลากเพิ่มเข้าสู่ระบบเป็น 120 ล้านฉบับ หรือ 60 ล้านฉบับคู่ เชื่อว่าจะสามารถกดราคาการจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากสลากที่นำเข้ามาไว้ในระบบครั้งนี้ จะเป็นแบบงวดต่องวด ทำให้ผู้ค้าที่เข้าร่วมโครงการสั่งซื้อ-สั่งจองสลากล่วงหน้า เมื่อรับไปจำหน่ายแล้วก็ต้องเร่งขายทันที เพราะมีเวลาขายระยะสั้นเพียง 9-10 วันเท่านั้น รวมถึงยังแก้ปัญหาการกักตุนสลากจากผู้ค้าที่หวังฉวยโอกาสเพิ่มราคาขายส่งได้อีกด้วย
“ขณะที่โครงการการสั่งซื้อ-สั่งจองสลากล่วงหน้า ครั้งที่ 16 ที่จะเปิดให้ทำการในวันที่ 18 พ.ค.นี้ เชื่อว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการลดลง เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน ทำให้ผู้ค้าขายสลากได้จำกัดและยากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่ตลาดจะเริ่มปรับตัว เพราะช่วยขจัดความต้องการเทียมคัดผู้ค้าสลากตัวปลอมออกไปได้ และทำให้ทางสำนักงานสลากฯ รับรู้และเก็บข้อมูลปริมาณสลากของแต่ละงวดได้ตามจริงมากยิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ภายในเดือน พ.ค.นี้ พล.ต.ฉลองรัฐ เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ จะแถลงผลการทำงานในรอบ 1 ปี การแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ถือว่าที่ผ่านมาพอใจมากที่สุด เพราะสามารถแก้ปัญหาราคาแพงให้อยู่ในราคาคู่ละ 80 บาท กระจายในแต่ละพื้นที่ ยกเว้นในบางพื้นที่ ที่มีการรวมชุดขายเป็นข้อตกลงของผู้ค้าและผู้ซื้อทำสัญญากันเป็นความพอใจทั้งสองฝ่าย แต่หากขายเกินราคาสามารถโทร.แจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีความได้ โดยโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำคุกและปรับ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.banmuang.co.th/news/economy/49071
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น