แอร์การ์ด

แอร์การ์ด
ท่องโลกอินเตอร์เน็ทง่ายกว่าที่คุณคิด

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ดอน จมูกบาน ป่วยหนักต้องการเลือดกรุ๊ป O ด่วนวอนผู้ใจบุญช่วยบริจาค

ดอน จมูกบาน

"ดอน จมูกบาน" ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย อาเจียนเป็นเลือด ญาติย้ายไปรักษา รพ.บางพลี อยู่ไอซียู แพทย์เผยอาการยังทรง มีภาวะซีดจากดีซ่าน ประคับประคองให้อยู่นานที่สุด ลูกชายกังวลหวั่นทรุดหนัก

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นพ.นนท์ จินดาเวช รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.บางพลี ถึงกรณีมีการแชร์ข้อความในเฟซบุ๊ก ทำนองว่า ดอน จมูกบาน เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ต้องการเลือดด่วน ตอนนี้อยู่ที่ รพ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ปโอให้ นายเล็ก เพียรเกตวิทย์ หรือ ดอน จมูกบาน ว่า ผู้ป่วยย้ายเข้ามารักษาเมื่อเย็นวาน จากโรงพยาบาลเอกชนที่รักษาอยู่ โดยมีอาการอาเจียนเป็นเลือดและอุจจาระเป็นสีดำ แสดงถึงภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร ซึ่งแพทย์ต้องให้ยาลดกรดในกระเพาะอาหารและให้เลือด โดยตอนนี้ถือว่าอาการยังทรงตัว ผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัวและมีภาวะซีดจากดีซ่าน

ส่วนตับก็ไม่ค่อยดี ซึ่งแนวทางการรักษาของแพทย์ต้องรักษาไปตามอาการ ประคับประคองให้อยู่กับญาติได้นานที่สุดเท่าที่ร่างกายผู้ป่วยจะรับไหว ส่วนเลือดยังคงต้องการอยู่ แต่ไม่ถึงกับเร่งด่วน รพ. ยังพอมีเลือดสำรองอยู่ประมาณ 2 ยูนิต และได้ประสานขอเลือดเพิ่มเติมจากสภากาชาดไทยแล้ว ส่วนร่างกายของผู้ป่วยจะดีขึ้นเร็วมากน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของผู้ป่วยด้วย

ดอน จมูกบาน

ด้าน นายธนภพ เพียรเกตวิทย์ อายุ 30 ปี บุตรชายของ ดอน จมูกบาน อายุ 69 ปี กล่าวว่า หลังบิดาตรวจพบว่าเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้ายเมื่อปี 54 ได้เข้ารักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งจนอาการดีขึ้น และสามารถรับงานการแสดงได้ แต่เมื่อต้นปี 59 ระหว่างที่บิดาอยู่ในกองละคร อาการของโรคมะเร็งกำเริบขึ้นมาอีกครั้งและทรุดหนัก ทางครอบครัวจึงพาเข้ารักษาที่ รพ.เดิมอีกครั้ง โดยช่วงแรกแพทย์ฉีดยาฆ่าเชื้อมะเร็งเพื่อให้บิดาสามารถถ่ายละครได้จบ จากนั้นบิดาก็เริ่มทรุดอีก จึงนำตัวรักษาที่ รพ.เดิมแต่อาการไม่ดีขึ้น เพราะมีภาวะตับโต และยาที่ฉีดเพื่อฆ่าเชื้อมะเร็งที่ตับไม่ตอบสนอง ซึ่งที่ผ่านมาทางครอบครัวหมดเงินค่ารักษาไปกว่าล้านบาท จึงปรึกษากันในครอบครัว และตัดสินใจย้ายตัวบิดามารักษาที่ รพ.บางพลี ตามสิทธิ์บัตรทอง ซึ่งขณะนี้ยังคงอยู่ในห้องไอซียู และรักษาตามอาการพร้อมกับให้เลือด โดยบิดารู้สึกตัวบ้างแต่พูดไม่ได้ ส่วนความกังวลในตอนนี้คือกลัวอาการของบิดาจะทรุดลงเท่านั้น


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thairath.co.th/content/629356

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น