|
เรื่องย่อนางทาส |
พระยาสีหโยธินไม่มีทางเลือกมากนัก เย็นเป็นความหวังเดียวของลูกสาว จะไม่ต้องเจ็บป่วยและทุกข์ทรมานอีก นมแสงไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการของแย้มที่จะดึงให้เย็นเป็นแม่นมของคุณหนูตัวน้อย แต่ก็ขวางไม่ได้ เพราะคุณหญิงคนสวยจำเป็นต้องทำ เพื่อรักษาชีวิตหมากสำคัญอย่างแดงไว้
อาการของแดงดีขึ้นทันตาเห็น เช่นเดียวกับสีหน้าของเย็น ที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเลือดในอก แม้อาจจะเป็นแค่ครั้งเดียวในชีวิตก็ตาม บุญมีเฝ้ามองสถานการณ์บนเรือนใหญ่ด้วยความเจ็บใจที่ทุกอย่างไม่เป็นตามหวัง แต่กระนั้นก็ไม่ยอมแพ้ หมายมั่นปั้นมือจะหาโอกาสอีกครั้ง ล้างแค้นท่านเจ้าคุณให้ได้
ส่วนสาลี่...ไม่ได้ยี่หระกับความอยู่รอดของใคร นอกจากร้องไห้สะอึกสะอื้นกับชะตากรรมตกต่ำของตนเอง แอบเห็นเจ้านายสาวเครียดก็เป็นห่วง พยายามจะปลอบใจ แต่ก็ไม่ค่อยได้เรื่องนัก
“ท่านเจ้าคุณจะโบยข้าเชียวนะนังแอบ นับแต่เป็นผัวเมียกันมา มีปากเสียงแทบนับครั้งได้ แต่นี่กลับจะโบยข้า”
“ท่านเจ้าคุณกำลังโกรธ อย่าไปถือสาเลยเจ้าค่ะ เป็นเพราะอ้ายเคราคนเดียว อ้ายสถุล! หากมันไม่เร่งรัดทวงหนี้แม่คุณของบ่าว แม่คุณคงไม่ต้องถูกท่านเจ้าคุณดุเอาเช่นนี้”
ชื่อของเคราทำให้สาลี่ยิ่งหัวเสีย แอบเลยเสนอให้ฉวยโอกาสนี้ไม่ใช้หนี้เสียเลย
สาลี่ส่ายหน้า ตัดสินใจโพล่งออกไป “มันไม่ง่ายอย่างนั้นดอก ที่ข้าต้องวิ่งพล่านหาเงินทองมาใช้หนี้มัน ก็เพราะอ้ายเครา...อ้ายเครามันจะบีบให้ข้าหลับนอนกับมันเพื่อล้างหนี้ ถ้าข้าไม่มีให้”
แอบตาค้าง ก่อนจะโวยออกไปด้วยอารมณ์โกรธจัด
“อ้ายชิงหมาเกิด มึงกล้าทำอย่างนี้กับคุณสาลี่เชียวรึ กูจะฆ่ามึงให้ตายกับมือ!”
ขาดคำก็ตั้งท่าจะไปเอาเรื่องเคราถึงบ่อน สาลี่ต้องดึงตัวไว้ ไม่อยากให้บ่าวคนสนิทหาเรื่องใส่ตัว แอบเลยแนะให้สารภาพเรื่องนี้กับท่านเจ้าคุณ เพราะถึงจะโดนด่า แต่ก็ไม่น่าจะต้องไปทำเรื่องอัปยศเช่นนั้น
“นึกว่าข้าไม่อยากบอกรึ แต่คนรอกระทืบซ้ำมีอยู่ทั่ว ทั้งอีคุณหญิง อีบุญมี แม้แต่บ่าวไพร่ในเรือนก็ใช่ว่ามันจะรักใคร่ข้าเหมือนเอ็ง ยามมีวาสนา มันก็ไม่กล้าดอก แต่ยามเสื่อมมีรึพวกมันจะปล่อยข้าไว้”
น้ำตาเจ้านายสาว ทำให้แอบสงสารจับใจ “แม่คุณของบ่าว...ไม่น่าเลย นี่ถ้าอ้ายเครามันเพียงแต่มักมาก มิเจาะจงมาที่คุณ บ่าวจะยอมหลับนอนกับมันใช้หนี้ให้คุณเองเจ้าค่ะ”
ความเสียสละของแอบ ทำให้สาลี่ทึ่งมาก ซาบซึ้งใจที่สุดที่บ่าวคนสนิทรักตนมากขนาดนี้ แต่เธอจะไม่มีวันยอมให้อีกฝ่ายไปทำอะไรแบบนั้นเป็นอันขาด เพราะเธอเพิ่งคิดได้ ว่ามีวิธีดีกว่านั้น!
วิธีการเอาตัวรอดจากสถานการณ์หนี้ท่วมหัวของสาลี่ คือหาทางขายเย็นให้พระมหาเทพ ซึ่งเธอรู้มานานแล้วว่าอีกฝ่ายหลงใหลและหวังในตัวอดีตเมียน้อยคนโปรดของสามีมากเพียงใด
พระมหาเทพรับคำอย่างไม่ลังเล ด้วยชอบใจหน้าตาหมดจดของเย็นมานาน แต่คนที่ต้องเดือดร้อนไปด้วย ก็คือเครา เพราะแผนของคุณพระหนุ่มกับอนุภรรยาคนสวย อาจทำให้เขาอาจชวดสิ่งที่หวังมานาน
“กระผมสู้อุตส่าห์อดทน แลวางแผนมานานปี ก็เพราะหวังในตัวแม่สาลี่ แลนี่เนื้อกำลังจะเข้าปาก คุณพระจะบอกให้กระผมหยุดอย่างนั้นหรือขอรับ”
“ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นล่ะวะ ข้าเองก็หวังในตัวนังเย็นมานานแล้ว เมื่อมีโอกาสข้าก็คว้าไว้ซีวะ”
“แล้วโอกาสของกระผมเล่าขอรับ”
“ก็ข้าบอกแล้วว่าชั่วคราว นังสาลี่มันติดพนันโงหัวไม่ขึ้น แม้ครานี้มันรอดได้ คราหน้าก็ไม่พ้นมือเอ็งดอกว่ะ”
“ก็เลยต้องให้กระผมรอไปก่อน จนกว่าคุณพระจะสมหวังกับอีนังทาสนั่นใช่หรือไม่ขอรับ”
“ถือว่าข้าขอเถิดว่ะ ถ้าข้าได้นังเย็นสมใจแล้ว ข้าสัญญา...ว่าเอ็งก็ต้องได้นังสาลี่เหมือนกัน เอ็งทำงานกับข้ามานาน แลมั่งมีขึ้นมาได้ก็เพราะข้า ยังจะกลัวข้าตระบัดสัตย์อีกรึ...”
เคราคับแค้นใจมาก แต่ก็พูดอะไรไม่ได้มาก เพราะตนอยู่ใต้พระมหาเทพมานาน
วันเวลาผ่านไปหลายวัน...อาการของแดงดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติ พระยาสีหโยธินดีใจมาก แต่ก็ยังไม่ดีมากพอจะยอมตามที่แย้มร้องขอ จะให้เย็นเป็นแม่นมของแดงจริงๆ
แย้มเสียใจมากแต่ก็พูดมากไม่ได้ เลยได้แต่ผ่อนปรนความรู้สึกผิดในใจตนที่มีต่อเย็น ด้วยการเสนอตัว จะช่วยเหลือทุกอย่างตามที่อีกฝ่ายร้องขอ แต่เย็นกลับไม่อยากได้สิ่งใดนอกจากรถลากให้ฟักเท่านั้น
เย็นได้รถลากตามที่ขอ และไม่รอช้าจะพาฟักไปนั่งรถเล่นในสวน เปลี่ยนบรรยากาศจากเรือนพักอุดอู้ เป็นร่มไม้น้อยใหญ่ ทำให้อาการและสีหน้าของหัวหน้าทาสสาวใหญ่ดีขึ้นมาก
บุญมีกับม้วนผ่านมาเห็นก็ปรี่ไปหาเรื่องทันที โดยเฉพาะอนุภรรยาคนสวย อยากไปหยั่งเชิงและดูสภาพของฟักตามประสาพวกร้อนตัว ส่วนม้วนทำหน้าที่เยาะเย้ยถากถางเย็นแทนเจ้านายสาวเช่นเคย แต่ก็ทำอะไรอดีตเมียน้อยคนโปรดไม่ได้ บุญมีเลยต้องออกโรงแทน แต่เย็นก็ไม่ตอบโต้อีก
“มิว่าบ่าวจะพูดหรือไม่พูด หากผู้เป็นนายเห็นว่าผิดแล้ว ก็ย่อมต้องผิดอยู่ดีเจ้าค่ะ”
ม้วนเต้นผ่างแทนเจ้านายสาว ตะคอกเสียงเข้ม “ปากดีนักนะนังเย็น สัญชาติคางคก ยางหัวไม่ตกไม่สำนึก เป็นขี้ข้าเขายังไม่พอ ยังถูกตราหน้าว่าเป็นขี้ข้าเพราะคบชู้ด้วย สารเลวเช่นนี้ ยังกล้าต่อปากต่อคำกับคุณบุญมีอีกรึ”
“แล้วพี่ม้วนมาต่อปากต่อคำกับขี้ข้าสารเลวอย่างฉัน พี่ม้วนเป็นขี้ข้าประเภทใดรึจ๊ะ”
น้ำเสียงราบเรียบของเย็นทำให้ม้วนโมโหมาก ตั้งท่าจะตบให้หายแค้น แต่ฟักก็แข็งใจลุกจากรถลากเข้ามาขวางเสียก่อน แต่เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นก็ล้มไม่เป็นท่า เพราะขาอ่อนแรงไม่ได้ใช้งานมานาน แต่เท่านั้นก็มากพอจะทำให้บุญมีร้อนใจมากจนต้องแล่นไปหาพี่ชายถึงโรงฝิ่นในเย็นวันเดียวกัน
บุญมาตกใจมากเมื่อได้ยินเรื่องอาการของฟักจากน้องสาว เลยตัดสินใจให้ยาพิษไปฆ่าปิดปาก แต่เที่ยงผ่านมาได้ยินเสียก่อน เลยพยายามขัดขวาง แต่ก็สู้แรงลูกน้องบุญมาไม่ไหว บุญมีเลยแย่งขวดยาพิษคืนไปได้
ฝ่ายสาลี่...อดทนรออย่างใจเย็น จะหาทางเอาเย็นไปประเคนพระมหาเทพให้ได้ แลกกับเงินก้อนโตไปใช้หนี้พนัน และแล้วโอกาสของอนุภรรยาคนสวยก็มาถึง เมื่อพระยาสีหโยธินอนุญาตให้เย็นตามไปทำบุญที่วัดด้วย เนื่องในโอกาสที่เขาจะทำบุญให้แดงที่เพิ่งหายจากอาการเจ็บป่วย
แย้มยินดีกับเย็นด้วย และยอมให้เย็นอุ้มแดงไปทำบุญที่วัดด้วยความเต็มใจ พระยาสีหโยธินก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เดินนำเมียหลวงกับแรมไปขึ้นรถม้าคันหน้า ส่วนเย็นอุ้มแดงไปนั่งรถคันต่อมากับทาสคนอื่น
ลูกน้องของพระมหาเทพรอจังหวะอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่ารถคันหน้าของท่านเจ้าคุณแล่นห่างไปไกล จึงได้ส่งสัญญาณให้พวกของตนบุกไปขวางรถคันที่สองและลักพาตัวเย็นออกมา!
กว่าพระยาสีหโยธินจะรู้เรื่องจากบ่าวที่หนีรอดมาได้ พวกคนร้ายก็พาตัวเย็นกับแดงไปไกลแล้ว แต่กระนั้น...พระยาหนุ่มใหญ่ก็ไม่ยอมแพ้ จัดแจงให้คนไปขอกำลังเพิ่มจากนครบาลไปช่วยตัวลูกและอดีตเมียกลับมา ให้ได้
เวลาเดียวกันที่เรือนฟัก...บุญมีหาทางลอบลงจากเรือนตัวเองมาฆ่าปิดปากเสี้ยนหนามคนสำคัญ
“อย่าว่าข้าเลยนะนังฟัก เอ็งมันถึงที่เอง หากเอ็งไม่มีท่าว่าจะดีขึ้น แลหากวันนี้นังเย็นมันไม่แส่ตามท่านเจ้าคุณไปทำบุญ ข้าก็คงไม่มีโอกาสเช่นนี้ดอก”
ฟักยังไม่มีแรงจะขัดขืน ได้แต่นอนแน่นิ่ง พลางส่งสายตาโกรธแค้นและชิงชังให้ แต่บุญมีก็ไม่สะทกสะท้าน กระชากแขนอีกฝ่ายขึ้นนั่งและพยายามจะเอายาพิษกรอกปาก!
แต่ทุกอย่างกลับพังไม่เป็นท่า! เมื่อเที่ยงแอบสะกดรอยตามมาขัดขวางไม่ให้เธอทำร้ายฟัก ขวดยาพิษถูกเขาปัดตกพื้นแตกกระจาย บุญมีโมโหมากจึงตบหน้าเขาฉาดใหญ่
“ครั้งหนึ่งยังพอให้อภัย แต่นี่ถึงกับลอบเข้ามาเพื่อช่วยอีฟักเชียวรึ คิดว่าข้าไม่กล้าทำกระไรเอ็งอย่างนั้นรึ”
“ก็ทำซีขอรับ กระผมยอมให้คุณบุญมีฆ่ากระผมก็ได้ แต่กระผมจะไม่มีวันยอมให้พี่ฟักถูกทำร้ายอีกแล้ว”
คำท้าทายของเขา ทำให้บุญมีหมดความอดทน จะตบเขาอีกรอบ แต่ครานี้เที่ยงไม่ยอมอีกแล้ว
“อย่าเสียงดังมากนะขอรับ ผัวเมียตีกัน อายบ่าวไพร่มันบ้าง”
บุญมีกัดฟันกรอด ก่อนจะผละไปไม่เหลียวหลัง ทิ้งเที่ยงไว้กับฟัก ซึ่งมองอดีตทาสหนุ่มด้วยความข้องใจ ว่าเหตุใดถึงยอมมาช่วย และที่สำคัญ...เขามีแผนการใดร่วมกับบุญมีหรือไม่
ฟักรอดตัวอย่างหวุดหวิดอีกครั้ง ต่างจากเย็น ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะมีชีวิตกลับไปหรือไม่ พระมหาเทพเห็นว่าเย็นอุ้มแดงมาด้วย เลยคิดแผนจะวางยาเธอ เมื่อสาลี่รู้เข้า ก็ถึงกับหัวเราะเย้ยหยัน
“กะอีแค่นางทาสคนเดียวถึงกับต้องวางยาเลยหรือคะคุณพระ หากฉันมิได้เห็นกับตา ได้ยินกับหู จะมิเชื่อเลย”
“หุบปากไปเถิดนะแม่สาลี่ ก็ไม่ใช่เพราะแม่สาลี่ดอกรึ เรื่องมันถึงได้บานปลาย จนลากลูกสาวท่านเจ้าคุณเข้ามาด้วย หากเอามาแต่นังเย็น ฉันก็คงไม่หนักใจเช่นนี้ดอก”
“จะมาโทษฉันคนเดียวได้อย่างไรเล่า ใครจะมีญาณหยั่งรู้ ว่านังเย็นมันจะสาระแนขออุ้มคุณแดง แลถ้าฉันไม่ทำ ก็ไม่มีโอกาสแล้ว แต่ถ้าคุณพระเกรงเด็กตัวเท่าเมี่ยงนัก ก็ปล่อยนังเย็นกลับไปเสียซีคะ”
“อย่ายั่วโมโหฉันนะแม่สาลี่ ที่ฉันต้องเกรง ก็เพราะมิรู้ว่าท่านเจ้าคุณจะมาตามลูกเมื่อใด แต่หากเป็นนังเย็นคนเดียว ท่านเจ้าคุณก็คงไม่กระไรกับทาสคบชู้นักดอก”
“เราหนีมาไกลไม่ใช่น้อย ใช่ว่าท่านเจ้าคุณจะตามมาเจอง่ายๆ แลหากคุณพระกลัว ก็เร่งมือเข้าเถิด”
“มิต้องบอกดอก ฉันลงทุนไปมาก มีรึ...จะปล่อยนังเย็นหลุดมือไปได้!”
แต่ถึงจะหวังไว้มากแค่ไหน แผนชั่วของพระมหาเทพและสาลี่ก็ต้องล่มไม่เป็นท่า เมื่อเย็นไม่หลงกล แต่แกล้งทำเป็นสลบ ก่อนจะฉวยโอกาสตอนคนเฝ้าเผลอ เอาไม้ตีหัวแล้วอุ้มแดงหนี แดงร้องไห้ไม่หยุด เย็นใจเสียมาก แต่ก็พยายามวิ่งเต็มกำลัง และเกือบจะถูกจับได้เสียแล้ว ถ้าพระยาสีหโยธินจะไม่โผล่มาช่วยทันเวลา!
พระมหาเทพกับสาลี่ซึ่งตามมาดูผลงานตัวเอง เห็นพระยาสีหโยธินนำกำลังนครบาลมาด้วยก็ตกใจมาก รีบหมุนตัวหนี โดยไม่รู้เลยว่าท่านเจ้าคุณหันมาเห็นหลังไวๆของทั้งสองพอดี แต่ก็ไม่แน่ชัดว่าเป็นใคร
เย็นเอาตัวเองปกป้องแดงอย่างเต็มที่ ก่อนจะโผซบอกอดีตสามีด้วยท่าทีหวาดผวา พระยาสีหโยธินถึงกับอึ้งไปอึดใจ ความโกรธเกลียดที่เคยมีต่ออีกฝ่ายเลือนหายจนแทบไม่มีเหลือ แต่ก็ยังทำใจกลับไปรักเธอฉันสามีภรรยาอย่างเดิมไม่ได้ เลยได้แต่ทำตัวนิ่ง และโอบปลอบจนเธอหายตกใจ
ฝ่ายพระมหาเทพกับสาลี่...วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน ด้วยกลัวพระยาสีหโยธินจะตามมาทัน แต่เพราะไม่เคยสมบุกสมบัน สาลี่เลยทำท่าจะไปต่อไม่ไหว คุณพระหนุ่มนึกรำคาญ พาลหงุดหงิดใส่
“รอกระไรเล่าแม่สาลี่ หรืออยากถูกนครบาลจับให้งามหน้า”
“ใครเล่าจะอยากถูกจับ แต่ลงเรือลำเดียวกันแล้ว คุณพระก็มีน้ำใจให้ฉันบ้างจะเป็นกระไร”
“ลงเรือลำเดียวกันงั้นหรือ ฉันเคยไปร่วมมือกับแม่สาลี่แต่เมื่อใด แลร่วมมือกันเรื่องกระไรรึ”
“พอจวนตัวก็คิดจะถีบหัวส่งรึ ก็เอาซี ฉันเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าหากฉันถูกจับขึ้นมา คุณพระจะรอดไปได้สักกี่วัน มิแน่ว่าเพลานี้คนของคุณพระอาจจะกำลังซัดทอดคุณพระอยู่แล้วก็เป็นได้”
คำขู่ของสาลี่ทำให้พระมหาเทพโกรธจัด คว้าคางเธอมาบีบแน่น ก่อนจะตะคอกเสียงเข้ม
“คนของฉัน...มันรู้ดีอยู่แล้ว ว่าถ้าซัดทอดมาถึงฉันจะเกิดกระไรขึ้นบ้าง ส่วนแม่สาลี่ หากยังไม่รู้ ก็รู้ไว้เถิด มิใช่แต่เพียงแม่สาลี่เท่านั้น แม้แต่ผัวแม่สาลี่เอง ฉันก็ไม่เอาไว้ดอก คนอย่างฉัน ไม่มีวันยอมตายคนเดียวเป็นอันขาด!”
“นี่คิดจะทำร้ายท่านเจ้าคุณเชียวรึ ท่านเจ้าคุณเป็นเกลอเก่า แลช่วยเหลือคุณพระไว้มาก ยังคิดร้ายได้ลงอีกรึ”
พระมหาเทพยิ้มเหี้ยม ตอกกลับไม่ไว้หน้า “ก็เพราะเป็นเกลอเก่าน่ะซี หากเกิดกระไรขึ้นกับท่านเจ้าคุณ ใครเล่าจะนึกถึงว่าเป็นฝีมือฉัน แม่สาลี่ก็มิใช่คนโง่ ตรองดูเอาเองก็แล้วกัน”
พระยาสีหโยธินตามไปช่วยลูกสาวกับอดีตเมียน้อยทันเวลา แต่ก็พลาดโอกาสจะจับตัวคนร้าย เย็นพยายามช่วยเต็มที่ แต่ก็จำอะไรไม่ได้มาก นอกจากสิ่งที่ได้ยินจากพวกลูกน้องว่าตัวคนบงการอาจมียศถึงคุณพระ!
แต่พวกนครบาลกลับไม่คิดเช่นนั้น ด้วยไม่เห็นเหตุจูงใจ ว่าคนมียศถาบรรดาศักดิ์จะจับตัวทาสกับเด็กไปเรียกค่าไถ่ให้เสียชื่อเสียง แย้มไม่เห็นด้วยนัก และก็คิดว่าสามีคงคิดไม่ต่างกัน เห็นได้จากท่าทางครุ่นคิดของเขา
พระยาสีหโยธินคิดไม่ต่างกันจริงๆ ด้วยคาใจเรื่องชายหญิงสองคนที่เห็นหลังไวๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากจุดที่เจอเย็นกับแดงนัก และรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก แต่จำไม่ได้ว่าสองคนนั้นคือใคร...
แย้มไม่รู้เรื่องสองชายหญิงปริศนา แต่ก็เดาว่าสามีน่าจะสงสัยสาลี่ เพราะมีแรงจูงใจมากที่สุด เลยอดไม่ได้จะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาหารือกับนมแสงเหมือนเคย
“ท่านเจ้าคุณไม่ได้พูดกระไรแม้แต่คำเดียว แต่ฉันรู้...ว่าท่านต้องคิด”
“แม่สาลี่มีชนักปักหลังเรื่องขโมยของ เพลานี้ก็มีหนี้พนัน ถ้าท่านเจ้าคุณจะสงสัยแม่สาลี่ก็คงไม่แปลกดอกค่ะ”
“ฉันเองก็สงสัย แต่ไม่เหมาะจะพูดออกไปให้ท่านเจ้าคุณหนักใจไปกว่านี้ แต่นม...พอจะช่วยฉันได้หรือไม่จ๊ะ”
นมแสงยิ้มอย่างรู้กัน “นมจะเอาข้อสงสัยเรื่องแม่สาลี่ไปพูดอ้อมๆกับนังม้วนเองเจ้าค่ะ ไม่ช้าไม่นานก็ต้องถึงหูคุณบุญมี คนมันชังน้ำหน้ากันอยู่แล้ว มีรึแม่บุญมีจะไม่ขยายความต่อ แม้ว่าแม่สาลี่จะไม่ได้กระทำ แต่ก็คงต้องแก้ตัวกันเหนื่อย โดยที่เราไม่ต้องเปื้อนมือเลย”
ด้านเย็น...แม้จะปลอดภัยกลับเรือน แต่ก็อดผวาไม่ได้ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เพิ่งผ่านมา แต่ไม่ทันได้สรตะเรื่องใดๆ ก็ต้องรีบหลบข้างทาง เมื่อเห็นสาลี่นั่งเรือมากับเครา!
สาลี่ไม่รู้ตัวว่าถูกเย็นจับตามอง มัวหัวเสียใส่เครา ซึ่งเพิ่งช่วยเธอจากการหนีพวกนครบาล
“แผนการคุณสาลี่ล้มเหลวทุกทาง แล้วเรื่องหนี้สินจะทำอย่างไรต่อเล่าขอรับ”
“ผ่อนผันให้ฉันหน่อยเถิด อย่างไรฉันก็ไม่หนีพ่อเคราไปแน่”
“คุณสาลี่ก็แจ้งอยู่แก่ใจว่ากระผมคิดเช่นไร คราก่อนกระผมอาจจะหยาบหยามไปบ้าง แต่ใจที่กระผมมีให้คุณสาลี่นั้นเป็นเรื่องจริงนะขอรับ ถ้าคุณสาลี่ ไม่อยากถูกครหาว่าคบชู้ ก็เลิกกับท่านเจ้าคุณมาอยู่กับกระผมเป็นไร มิเพียงแต่ล้างหนี้ได้เท่านั้น แต่คุณสาลี่ยังเล่นพนันได้เท่าที่ต้องการอีกด้วย”
“ทิ้งผัวพระยามามีผัวนายบ่อนน่ะรึ ถ้าทำจริง ฉันคงโง่เกินคนแล้ว”
“ก่อนจะพูดให้เป็นห่วงรัดคอตนภายหลัง คุณสาลี่ลองตรองดูเถิดขอรับ เพลานี้...คุณสาลี่ยังได้รับความไว้เนื้อ เชื่อใจ แลยังเป็นยอดดวงใจของท่านเจ้าคุณเหมือนเดิมอยู่อีกรึ”
สาลี่ถึงกับชะงัก คำพูดของเขาแทงใจดำอย่างแรง เคราเลยฉวยโอกาสพูดทิ้งท้าย
“บางครา...เป็นหมาหัวเน่าก็ยังดีกว่าเป็นหางราชสีห์ไม่ใช่หรือขอรับ”
เคราพายเรือจากไปแล้ว ทิ้งสาลี่ให้ยืนหน้าเสีย เพราะรู้ตัวว่าไม่มีทางเลือกมากนัก โดยไม่รู้เลยว่าเย็นลอบมองตามห่างๆอีกทีด้วยแววตาสงสาร แต่ก็สมเพชเวทนาไปในตัว
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thairath.co.th/ent/novel/nangtard/ch11